ริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) ประเทศบราซิล ได้รับเลือก
จากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ให้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรม โอลิมปิก 2016 โดยเอาชนะคู่แข่งอย่าง กรุงมาดริด ประเทศสเปน ขาดลอย
เนื่องจากเป็นเมืองที่ยังไม่เคยจัดงานมาก่อน
ทั้งยังเป็นเมืองของทวีปอเมริกาใต้เมืองแรกที่ได้จัดโอลิมปิกอีกด้วย ริโอ เดอ จาเนโร หรือที่เรียกกันว่า ริโอ เป็น เมืองหลวง ของบราซิลในอดีต จนกระทั่งรัฐบาลกลางได้ย้ายเมืองหลวงมาที่เมืองบราซิเลียในปี 2503
ถูกเอ่ยถึงอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อ 500 กว่าปีก่อน ในเดือนมกราคม ปี 2045 นักสำรวจชาวโปรตุเกสที่ชื่อ
กาสปาร์ เลมอส ล่องเรือมาถึงอ่าวแห่งนี้และสันนิษฐานว่ามันน่าจะเป็นปากแม่น้ำ
เขาจึงเรียกอาณาบริเวณนั้นว่า ริโอ เดอ จาเนโร ซึ่งมีความหมายว่า “แม่น้ำแห่งเดือนมกราคม” บราซิล เสนองบประมาณในการจัดโอลิมปิกครั้งนี้ถึง 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหวังว่า การเป็นเจ้าภาพจะช่วยยกสถานภาพ
และเพิ่มอำนาจทางเศรษฐกิจของประเทศบนเวทีโลก และทำให้ ริโอ กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวและสถานที่จัดประชุมนานาชาติเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับ
บาร์เซโลนา ของสเปน เมื่อครั้งเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี ค.ศ.1992
ริโอ ซึ่งเป็นประตูสู่บราซิล ได้ชื่อว่า เป็นเมืองที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก จนได้รับขนานนามว่า “เมืองที่ยอดเยี่ยม” โดยเฉพาะชายหาดชื่อดังอย่าง โคปาคาบานา และ
อีปาเนมา ซึ่งว่ากันว่า
เป็นชายหาดที่เซ็กซี่มากที่สุดในโลก ส่วนชื่อเสียงด้านวัฒนธรรมก็ไม่น้อยหน้าใคร
อย่าง “คาร์นิวัล” เทศกาลรื่นเริงประจำปีของบราซิล
ก็มีนักท่องเที่ยวไปร่วมงาน 5 แสนคนต่อปี
ริโอ ยังเป็นเมืองที่ให้กำเนิดแนวเพลงบอสซาโนว่าด้วย
แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
และโด่งดังมาก ก็คือ รูปปั้นของพระเยซู ชื่อ Christ of Redeemer ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และ ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ เมื่อ 2 ปีก่อน รูปปั้นที่สูงประมาณ 700 เมตรนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด
เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองและชายหาดที่สวยที่สุด
นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถรางไปบนยอดเขาเพื่อมองรูปปั้นอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบราซิลและคริสต์ศาสนิกชนทั่วโลกอย่างใกล้ชิด
ชาวบราซิลมักจะกล่าวอ้างว่า พระเจ้าเป็นชาวบราซิล ซึ่งอาจเป็นเพราะ รูปปั้นพระเยซู
ที่ยืนเพ่งมองมายังเมือง ราวกับว่า ริโอ อยู่ในความคุ้มครองของพระองค์
![]() |
@peepare |